คงเป็นเรื่องที่ลูกค้าทุกคนสงสัยไม่น้อย สำหรับเรื่องการเปลี่ยนไส้กรอง ว่าเราควรเปลี่ยนตอนไหนถึงจะเหมาะสมที่สุด วันนี้ผมจะมาเล่าให้ลูกค้าได้เข้าใจมากขึ้นครับว่า เราควรจะเปลี่ยนตอนไหนดี
ต้องดูที่น้ำดิบของสถานที่ ที่เราติดตั้งตู้ น้ำดิบคือน้ำประปาที่ออกจากท่อโดยไม่ผ่านกระบวนการกรองใดๆทั้งสิ้นนั้นเองครับ หากน้ำดิบของที่นั้นๆ มีความเจือปนและเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกสูง ก็จะให้ไส้กรองเราตันไวมากเท่านั้นครับ
ดูที่จำนวนผู้ใช้บริการ หากเราติดตั้งตู้ในทำเลที่ดี แน่นอนว่าผู้ใช้บริการก็จะเยอะ ทั้งนี้ดูที่ปริมาณเงินที่ได้รับต่อเดือนก็ได้ครับ หากน้ำดิบดี แต่รายได้ 4,000 ขึ้นไปต่อเดือน ทางช่างแนะนำว่าให้ลูกค้าเปลี่ยนไส้กรองทุก 6-7 เดือนครับ เพื่อเป็นการรักษารสชาติและคุณภาพของน้ำ
ดูที่รสชาติหรือกลิ่นและสี ของน้ำ วิธีนี้จะค่อนข้างยากหน่อยนะครับ เพราะเราอาจรับรสได้หรือกลิ่นได้ไม่เท่ากัน แต่หากมีสิ่งแปลกปลอมมากับน้ำตอนกรอกหน้าตู้ ทางช่างแนะนำให้ตรวจสอบหลายๆรอบครับ บางทีอาจจะแค่เศษที่ติดอยู่ในขวดก็เป็นได้ครับ
กะเวลาตามการเปลี่ยนทั่วไป โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะเปลี่ยนไส้กรองทุกๆ 8-12เดือนครับ เพื่อรักษาคุณภาพน้ำและตู้ของเราเองด้วย หากทางลูกค้าไม่เปลี่ยนไส้กรอง แน่นอนว่าตู้จะไม่สามารถผลิตน้ำได้ครับ ต้องระวังเรื่องนี้ด้วย
ดูปริมาณน้ำที่ไหล หากน้ำเริ่มไหลช้าไม่เหมือนตอนที่ได้เปลี่ยนใหม่ ๆ นั้นอาจเป็นสัญญานที่ไม่ดีครับ เกิดขึ้นได้จากการที่ ไส้กรองของเราอาจจะตันหรือปั้มน้ำอ่อน
ระวังไส้กรองไม่ได้คุณภาพ บางครั้งอาจมีคนเที่ยวมาขอเปลี่ยนไส้กรองหน้าตู้ เรื่องนี้ลูกค้าต้องระวังเป็นอย่างมากนะครับ เพราะทางร้านไม่เคยมีนโยบายให้ช่างไปเปลี่ยนไส้กรองเองโดยที่ลูกค้าไม่ได้เรียกไป หากลูกค้าเจออย่างกรณีนี้ต้องระวังไส้กรองราคาถูกกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นไส้กรองที่ไม่มีคุณภาพเพราะอาจทำให้ระบบของตู้เสีย จนต้องเปลี่ยนหลายอย่างกันเลยทีเดียวครับ สำหรับหัวข้อนี้มีเพียงเท่านี้ครับ หวังว่าทางลูกค้าจะได้รับความรู้ไม่มากก็น้อยนะครับ
*ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ
Comments