ลูกค้าหลายๆ ท่านยังเลือกลงทุนไม่ถูกว่าจะใช้เครื่องซักผ้าแบบใดในการให้บริการลูกค้า หรือ ลูกบ้าน แบบใดดีกว่ากันระหว่างฝาหน้าหรือฝาบน วันนี้ทางร้านจะเอาประสบการณ์ที่เคยขายและลงทุนเอง มาให้คำตอบลูกค้าเพื่อให้เลือกได้ง่ายขึ้น มี 3 ข้อเคล็ดลับง่ายๆ ด้วยกันครับ
เคล็ดลับที่ 1 - ดูจากกลุ่มลูกค้าและคู่แข่ง
พื้นที่เป้าหมายของเราลูกค้าและคู่แข่งเป็นอย่างไร เราต้องทำความเข้าใจจุดนี้ก่อนเลือกซื้อครับ หากกลุ่มเป้าหมายลูกค้าเป็นผู้ที่มีกำลังซื้อมาก เช่น คอนโดมีเนี่ยม หรือโรงแรม ย่อมเป็นผู้ที่มีความรู้มากด้วย เค้าจะชอบเลือกใช้เครื่องซักผ้าที่ดีกว่าครับ เราจะต้องเลือกลงทุนในเครื่องฝาหน้าจะเหมาะสมกว่า เพื่อให้ลูกค้าอยากใช้งานครับ จุดนี้จะใช้ได้กับผู้ที่จะลงเครื่องในที่ลูกค้ามีกำลังซื้อน้อยลงมา เราจะต้องใช้เครื่องต้นทุนไม่แพงเพื่อสู้ราคาต้นทุน จุดนี้ใช้เครื่องฝาบนจะเหมาะกว่ามากครับ
ดูจากคู่แข่ง หากจุดพื้นที่เป้าหมายมีคู่แข่งมากช่วยไม่ได้ที่จะต้องทำให้สินค้าเราแตกต่างและโดดเด่น การลงสินค้าที่ดูดีกว่าอย่าง ฝาหน้ามาสู้ฝาบน เราย่อมได้เปรียบครับ และในตอนนี้ Samsung ฝาบน ตัวเครื่องดีไซน์ล้ำสมัยมากๆ จะช่วยให้เราแย่งลูกค้าจากคู่แข่งใกล้เคียงได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องลงทุนเยอะครับ
เคล็ดลับที่ 2 - ประสิทธิภาพของตัวเครื่อง
เป็นเรื่องปกติที่สินค้าราคาแพงจะต้องดีกว่าสินค้าราคาต่ำกว่า เครื่องซักผ้าเองก็ดช่นกันครับ ประสิทธิภาพการซักของฝาบนย่อมด่อยกว่าฝาหน้า เพราะรอบการซักที่น้อย และฟังชั่นต่างๆ ของเครื่องน้อยกว่ามาก ทำให้การซักฝาหน้าจะสะอาดกว่ามากครับ
"เครื่องซักผ้าฝาหน้า สามารถขจัดคราบสกปรกได้ดีกว่าเครื่องซักผ้าฝาบน โดยเฉพาะคราบฝังลึก เนื่องจากลักษณะการหมุนของถังซักที่เป็นลักษณะไปกลับ มีประสิทธิภาพในการขจัดคราบสกปรกได้ดีกว่าแบบหมุนบิดของเครื่องซักผ้าฝาบน" - LG
เคล็ดลับที่ 3 - ทุนของลูกค้า
ในกิโลที่เท่ากัน ฝาหน้าจะแพงกว่าฝาบนเกือบ 2 เท่า เพราะฉนั้นหากลูกค้าคิดถึงจุดคุ้มทุนที่เร็วกว่านั้น ฝาบนจะตอบโจทย์ลูกค้าเลยครับ และเรื่องค่าน้ำและค่าไฟ ถึงฝาหน้าจะใช้น้ำน้อยกว่าฝาหน้า แต่ค่าไฟนั้นแพงกว่ามากครับ ทำให้สุดท้ายต้องจ่ายค่าไฟที่มากขึ้นอยู่ดี
สุดท้ายนี้ขอให้ลูกค้าทุกท่านที่อ่านบทความนี้เลือกสินค้าได้อย่างง่ายดายมากขึ้นครับ
หากผิดพลาดประการใด ต้องขอโทษลูกค้ามาก่อน ณ ตรงนี้ครับ
มีคำถามเพิ่มเติม @Line มาสอบถามได้เลยครับ